เพิ่มวีซ่าผู้ปกครองและวีซ่าทักษะ การเปลี่ยนแปลงเรื่องการย้ายถิ่นฐานกับงบประมาณฉบับใหม่มีอะไรบ้าง

งบประมาณเดือนตุลาคม ปี 2022 อัดฉีดงบเพิ่มเข้ากระทรวงมหาดไทย $576 ล้านดอลล่าร์ ใน 4 ปี ข้างหน้า เพื่อเพิ่มจำนวนวีซ่า

งบประมาณรัฐบาลใหม่กับการเพิ่มจำนวนวีซ่าจำนวนมาก

งบประมาณรัฐบาลใหม่กับการเพิ่มจำนวนวีซ่าจำนวนมาก Credit: Karin Zhou-Zheng

Key Points
  • วีซ่าทักษะเพิ่มขึ้นจาก 79,600 เป็น 142,400
  • วีซ่าผู้ปกครองเพิ่มขึ้นจาก 4,500 เป็น 8,500
รัฐบาลของนายอัลบานีซ่าจะเพิ่มจำนวนวีซ่าผู้ปกครอง (Parent Visa) เกือบสองเท่า และจะเพิ่มจำนวนวีซ่าทักษะ (Skilled Visa) ให้มากขึ้น จากการวางแผนงบประมาณของรัฐบาลชุดใหม่ประจำปี 2022

และยังให้งบแก่บางโครงการเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐาน (Migration Program) หลังรัฐบาลของนายมอร์ริสันหั่นงบนี้ออก

กระทรวงมหาดไทย (Department of Home Affairs) จะได้งบประมาณ $576 ล้านดอลล่าร์ เป็นเวลา 4 ปี เพื่อเร่งดำเนินการวีซ่า ดูแลรักษาศูนย์ดำเนินการวีซ่าในต่างประเทศ และเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัย

อย่างไรก็ตามงบประมาณส่วนนี้ยังคงขาดไป $300 ล้านดอลล่าร์ จากเดิม $875 ล้านดอลล่าร์ที่ถูกตัดออกในเดือนมีนาคม

นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีซีกล่าวว่า รัฐบาลได้เพิ่มงบประมาณในจำนวนที่เป็นรูปธรรมแก่กระทรวง
นี่เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับกระทรวงมหาดไทย เราจะได้ดำเนินการเรื่องวีซ่าได้ราบรื่นอีกครั้ง
นายกอัลบานีซีกล่าวกับเอสบีเอส นิวส์ (SBS News)
แต่ผู้สนับสนุนการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยกล่าวว่า งบประมาณจุดนี้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ตัวเลขวีซ่าทักษะในปีงบประมาณ 2022-23 โดยละเอียด
ตัวเลขวีซ่าทักษะในปีงบประมาณ 2022-23 โดยละเอียด

งบประมาณของรัฐบาลนายอัลบานีซีมีผลกับวีซ่าอย่างไร?

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของนายอัลบานาซีประกาศว่าจะให้งบประมาณ $36.1 ล้านดอลล่าร์จ้างพนักงานเพื่อเร่งการดำเนินการขอวีซ่า และยังได้กล่าวว่าจะเพิ่มจำนวนวีซ่าทักษะและวีซ่าครอบครัวที่จะรับ จากเดิม 160,000 เป็น 195,000 วีซ่า

รัฐบาลไม่ได้เพิ่มจำนวนวีซ่าในโครงการวีซ่าเพื่อการย้ายถิ่นฐาน แต่เปิดตัววีซ่าความร่วมมือในหมู่เกาะแปซิฟิก (Pacific Engagement Visa) สำหรับชาวเกาะแปซิฟิกและติมอร์-เลสเต

เพิ่มจำนวนวีซ่า 3,000 วีซ่าต่อปี เริ่มตั้งแต่ปี 2023 นับเป็นจำนวนเพิ่มเติมจากเดิม 195,000 วีซ่าสำหรับผู้พำนักถาวร

เพิ่มจำนวนวีซ่าทักษะที่จะรับเป็นจำนวนมาก จากเดิม 79,600 เป็น 142,400 วีซ่า ครอบคลุมวีซ่านายจ้างสปอนเซอร์ (Sponsored Visa) วีซ่าทักษะ (Skilled Independent) วีซ่าในแถบภูมิภาค (Regional) รวมถึงวีซ่าที่แต่ละมลรัฐและมณฑลเสนอความต้องการ

เพิ่มวีซ่าผู้ปกครอง

รัฐบาลเพิ่มจำนวนวีซ่าผู้ปกครอง (Parent Visa) จากเดิม 4,500 ในระหว่างปี 2021-22 เป็น 8,500 ในปีนี้ วีซ่าคู่ครอง (Partner Visa) และวีซ่าสำหรับบุตร (Child Visa) ให้เป็นไปตามความต้องการ โดยไม่มีการจำกัดจำนวน และเพิ่มจำนวนวีซ่าครอบครัว (Family Visa) เป็น 500 วีซ่า รวมถึงวีซ่าพิเศษอื่นๆ (Special Eligibility Visa) อีก 100 วีซ่า

คงจำนวนจำนวนวีซ่าเพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian Visa) อยู่ที่ 13,750 วีซ่า ระหว่างปี 2022-23 และเพิ่มวีซ่าสำหรับผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถาน (Afghan Refugee) เป็น 16,500 ภายใน 4 ปี

ให้ความสำคัญกับวีซ่าทักษะ (Skilled Visa) แก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศและประชากรประเทศนิวซีแลนด์ที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียเป็นเวลาหลายปี
การอพยพย้ายถิ่นทำให้ออสเตรเลียยิ่งใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะในแง่ของเศรษฐกิจหรืองบประมาณ
นักเศรษฐศาสตร์ คริส ริชาร์ดสันกล่าว.

โครงการย้ายถิ่นฐานจะสร้างรายได้ภาษีนับล้าน

คาดว่าการปรับปรุงโครงการย้ายถิ่นฐาน (Immigration Program) นี้จะสร้างรายได้ภาษีเพิ่มขึ้น $935 ล้านดอลล่าร์ ใน 4 ปีข้างหน้า และประมาณการณ์ว่าจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ $487 ดอลล่าร์ในการสร้างบริการเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ เช่น สถาบันการศึกษาหรือโปรแกรมภาษา

ขณะที่ชาวออสเตรเลียบางส่วนคิดว่าการเพิ่มจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นจะเป็นการแย่งงานจากคนท้องถิ่น คุณริชาร์ดสันกล่าวว่าเป็นแนวความคิดสมัยปลายทศวรรษ 1970

คุณริชาร์ดสันกล่าวอีกว่า คาดว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสูงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

เสียงตอบรับจากหลากชุมชน

ศูนย์ข้อมูลสำหรับผู้ขอลี้ภัย (Asylum Seeker Resource Centre) มีความยินดีกับงบประมาณที่มอบแก่โครงการนำร่องเพื่อช่วยเหลือผู้ถือวีซ่าชั่วคราว (Temporary Visa Holders) ซึ่งประสบความรุนแรงในครอบครัว โดยงบประมาณในส่วนนี้จัดสรรเงินจำนวน $12.6 ล้านดอลล่าร์ เป็นเวลา 2 ปี

แต่หลายกลุ่มชุมชนกล่าวว่า คำมั่นสัญญาบางอย่างที่เคยให้ไว้ก่อนการเลือกตั้งยังไม่มีการดำเนินการ

“งบประมาณของรัฐบาลกลางชุดใหม่ในระหว่างปี 2022-23 ไม่สามารถทำความความคาดหวังของสาธารณชนในเรื่องของผู้ลี้ภัยและผู้ที่ต้องการลี้ภัย สำหรับประเทศที่ขนานนามว่าเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและยุติธรรม” บางส่วนของคำแถลงกล่าว

“ศูนย์ฯ ผิดหวังอย่างยิ่งกับคำมั่นสัญญาของพรรคแรงงาน (Labour Party) ที่ยังไม่บรรลุผลในงบประมาณฉบับนี้ การเพิ่มจำนวนวีซ่ามนุษยธรรม ยกเลิกวีซ่าคุ้มครองชั่วคราว (Temporary Protection Visa) หรือวีซ่าที่หลบภัย (Safe Haven Enterprise Visa) และการให้บริการทางสังคมที่เหมาะสมกับผู้ที่ขอลี้ภัย”
กด ▶ เพื่อฟังบทสัมภาษณ์ของ พลตำรวจตรีปวีณ
Paween Pongsirin speaks about his life as a refugee in Australia image

พล.ต.ต.ปวีณ เปิดใจเป็นผู้ลี้ภัยไม่ได้สบายอย่างที่ใครคิด

SBS Thai

16/06/202227:41
กลุ่มสนับสนุนผู้ลี้ภัยกล่าวว่า ผิดหวังที่ไม่เห็นมาตรการในการลดเวลาการดำเนินการวีซ่าผู้ลี้ภัยและเพิ่มงบในศูนย์กักกันนอกและในประเทศ

อย่างไรก็ตาม องค์กรเอเอ็มอีเอส ออสเตรเลีย (AMES Australia) หน่วยงานให้การสนับสนุนการตั้งถิ่นฐานของผู้อพยพและผู้ลี้ภัย มีความยินดีกับจำนวนวีซ่าที่รัฐบาลจัดสรรให้เพิ่มและงบประมาณด้านค่าเล่าเรียนภาอังกฤษกับโปรแกรมภาษาอังกฤษสำหรับผู้อพยพ (Adult Migration English Program - AMEP)
เรายินดีกับงบประมาณกับโครงการภาษาอังกฤษ AMEP ซึ่งหมายความว่าผู้อพยพที่เพิ่งมาใหม่ในออสเตรเลียจะสามารถมีทักษะภาษา ในขณะที่ทำงานหรือดูแลสมาชิกครอบครัว
ผู้บริหารเอเอ็มอีเอส แคท สการ์ท (Cath Scarth) กล่าว
องค์กรเซฟ เดอะ ชิลเดรน ออสเตรเลีย (Save the Children Australia) ก็กล่าวยินดีกับงบประมาณจำนวน $1.37 พันล้านดอลล่าร์เพิ่มเติม ในการใช้จ่ายเพื่อการช่วยเหลือในต่างประเทศ ในภูมิภาคแปซิฟิกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่กล่าวว่ายังต้องการงบประมาณอีกอย่างน้อย $13.6 ล้านดอลล่าร์เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ประสบปัญหาภาวะทุพโภชนาการระดับรุนแรง

“ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจและความรุนแรงของวิกฤตต่างๆ ที่เด็กๆ ทั่วโลกต้องเผชิญ งบประมาณในส่วนนี้ของออสเตรเลียยังไม่บรรลุเป้าหมายที่สมควรในการระดมทุนเพื่อมนุษยธรรม” คุณทิงค์เลอร์กล่าว


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 
 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 27 October 2022 2:31pm
Updated 27 October 2022 2:48pm
By Charis Chang
Presented by Chollada Kromyindee
Source: SBS


Share this with family and friends