เรียกร้อง‘ความรุนแรงในครอบครัว’เป็นวาระแห่งชาติ เหตุอัตราฆาตรกรรมผู้หญิงพุ่ง

NATIONAL RALLY AGAINST VIOLENCE CANBERRA

ภาพผูัคนเข้าร่วมเดินขบวนเพื่อเรียกร้องยุติกาารใช้ความรุนแรงในครอบครัวด้านหน้ารัฐสภาในนครแคนเบอรา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน Source: AAP / LUKAS COCH/AAPIMAGE

แม้ข้อมูลจากรายงานการฆาตกรรมในออสเตรเลียล่าสุดชี้ว่าสถิติการฆาตกรรมทั่วประเทศลดลง แต่ในปีงบประมาณที่แล้วผู้หญิงที่ถูกคู่ครองในออสเตรเลียฆาตรกรรมมีอัตราเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 30 รายงานนี้ได้เผยแพร่หลังจากมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงทั่วประเทศ


 

กด ▶️ ด้านบนเพื่อฟังรายงานเรื่องนี้


ประเด็นความรุนแรงและการฆาตรกรรมผู้หญิงที่เพิ่มมากขึ้นนี้ เป็นวาระระดับชาติ ซึ่งสถาบันอาชญาวิทยาแห่งออสเตรเลียได้มีการทบทวนคดีฆาตกรรมทั้งหมดในปีที่แล้วจนถึงเดือนมิถุนายน 2023

ซึ่งพบว่า จากผู้เสียชีวิตทั้งหมด 247 ราย 75 รายเป็นผู้หญิง และในจำนวนนี้ 34 รายถูกคู่ครองในอดีตหรือปัจจุบันฆาตรกรรม

แม้ว่าสถิติอัตราการฆาตกรรมโดยรวมลดลงนับตั้งแต่การศึกษานี้เริ่มต้นขึ้นในปี 1989 แต่รายงานล่าสุดชี้ว่าการฆาตกรรมคู่ครองที่มีเหยื่อเป็นผู้หญิงเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 28 จากปีที่ผ่านมา

รองผู้อำนวยการสถาบันอาชญวิทยาแห่งออสเตรเลีย ดร.ริก บราวน์ กล่าวว่า สถิติดังกล่าว เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ

 "สถิติที่น่าตกใจที่สุดที่เราได้รับจากโครงการติดตามการฆาตกรรมทั่วประเทศคือ ตลอดระยะเวลาที่เราดำเนินโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 1989 มีผู้หญิง 1,667 คนที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของคู่ครองของตน"

รายงานนี้แบ่งการฆาตกรรมออกเป็นสามประเภทด้วยกัน โดยแบ่งจากความสัมพันธ์ของผู้กระทำผิดกับเหยื่อเช่น: ในครอบครัว คนรู้จัก และคนแปลกหน้า

Red Rose rally, outside the Qld Parliament House, honoring women lost to violence
การเดินขบวน Red Rose rally เป็นสัญลักษณ์เพื่อเชิดชูเกียรติผู้หญิงที่เป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงในครอบครัว Source: AAP

 
ผลการวิจัยพบว่าการฆาตกรรมโดยคนแปลกหน้านั้นค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยากสำหรับผู้หญิง โดยคิดเป็นประมาณร้อยละ 13 แต่ศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย เฮเทอร์ ดักลาส จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น กล่าวว่า เรายังต้องมีสิ่งที่ควรปรับปรุงอีกมาก ศาสตราจารย์ ดักลาส กล่าวว่า


ยังมีผู้หญิงจำนวนมากที่ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุน ในเวลาที่พวกเขาต้องการ

 
เมื่อปีที่แล้ว สถาบันดังกล่าว ได้ระบุว่ามี 3 ปัจจัยหลัก ที่นำไปสู่การสังหารโดยคู่รักที่เป็นชาย

ประการแรก คือ "ความกดดัน หรือ ความเครียดเฉียบพลัน' ที่เกิดจากเหตุการณ์ในชีวิตคิดเป็นประมาณร้อยละ 11 ของการฆาตกรรม

ประการที่ 2 คือ 'ภัยจากผู้คุกคาม' ซึ่งรวมถึงการสะกดรอยตามหรือพฤติกรรมหมกมุ่นอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 30

ประการที่ 3 ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดคือการเสียชีวิตที่เกิดจากความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งพบถึงร้อยละ 40 ดร. ริก บราวน์ เปิดเผยเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า

สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือกลุ่มที่เราเรียกว่า การทำซ้ำและไม่มีแบบแผน ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 40 ของผู้กระทำผิดในคดีฆาตกรรมคู่ครองและเป็นกรณีมีการใช้ความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นซ้ำๆ
รองผู้อำนวยการสถาบันอาชญวิทยาแห่งออสเตรเลีย ดร. ริก บราวน์


ด้าน รัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและผู้รอดชีวิตจากเหยื่อ แอน อาลี [[ah-lee]] บอกกับ ABC ว่าการเสียชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัวแต่ละครั้ง เป็นการทำให้เหยื่อรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง

เธอกล่าวว่า ถึงแม้ว่ากฎหมายระหว่างการก่อการร้ายและความรุนแรงทางเพศ จะมีความแตกต่างกัน แต่เหยื่อมักจะได้รับประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน รัฐมนตรี อาลี อธิบายว่า

 "กฎหมายทั้งสองนี้มีความแตกต่างในด้านองค์กร การระดมพล แรงจูงใจ และสาเหตุ แต่ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญที่คล้ายกันสำหรับผู้หญิงที่ถูกคุกคาม คือความรุนแรง การก่อการร้าย และการควบคุม"

 
ความต้องการสายด่วน พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอาทิตย์ (28 เมษายน) ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการชุมนุมต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวเกิดขึ้นทั่วประเทศ

ในวันดังกล่าวบริการสนับสนุนภาวะวิกฤติได้รับโทรศัพท์และข้อความ 4,351 จำนวน ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายปีถึง 20 เปอร์เซ็นต์

Lifeline
สายด่วน Lifeline ช่วยเหลือผู้ที่เผชิญความรุนแรงในครอบครัวในภาวะวิกฤติ

ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้ประกาศเรื่องความรุนแรงในครอบครัวเป็นวาระแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีซีได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีสหพันธรัฐเมื่อวันอังคารที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นนี้

นายกรัฐมนตรีอัลบานีซี กล่าวว่าจะต้องมีการผสมผสานระหว่างการแก้ปัญหาระยะยาวและการดำเนินการในทันทีเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพ

 "เราต้องรับรู้ว่านี่เป็นปัญหาระยะยาว จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ต้องใช้มาตรการที่หลากหลาย แต่เรายังต้องมีมาตรการและการตอบสนองเชิงปฏิบัติในทันทีด้วยเช่นกัน ผมหวังว่าเราจะได้อภิปรายเรื่องนี้กันอย่างสร้างสรรค์ "


หากคุณต้องการติดต่อสายด่วน สามารถโทรศัพท์โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ทุกเวลา 24 ชั่วโมงที่ 13 11 14

หรือสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

หรือหากคุณตกอยู่ในภาวะฉุกเฉินสามารถโทรศัพท์ได้ที่หมายเลข 000

 


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 







บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 


 


 

 

 

 

Share