แบงก์ชาติออสฯ ขึ้นดอกเบี้ยอีก หวั่นค่าครองชีพทะลุเพดาน

Australians should expect more interest rate rises but the risk of recession low, RBA governor says

Source: AAP

ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด รัฐหวั่นภาวะตึงเครียดของประชาชนเนื่องจากรายจ่ายครัวเรือนที่สูงขึ้น นักเศรษฐศาสตร์คาดภาวะเศรษฐกิจอาจแย่กว่านี้ในอนาคตอันใกล้


กด 🔊 เพื่อฟังสัมภาษณ์
LISTEN TO
thai_bae2588d-9deb-42db-9028-61bdab7b4242.mp3 image

แบงก์ชาติออสฯ ขึ้นดอกเบี้ยอีก หวั่นค่าครองชีพทะลุเพดาน

SBS Thai

07/07/202209:13
ธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย (RBA) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานทางการ (official cash rate) ปรับสูงขึ้นร้อยละ 50 จากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.85 เป็น ร้อยละ1.35

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีวงเงินกู้อยู่ที่ 500,000 ดอลลาร์ หมายความว่าคุณต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม 137 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือถ้าคุณมีวงเงินกู้ 750,000 ดอลลาร์ คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มประมาณ 205 ดอลลาร์ต่อเดือน และถ้าคุณกู้เงินซื้อบ้านในวงเงิน หนึ่งล้านดอลลาร์ คุณจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเดือนละ 273 ดอลลาร์ สถานการณ์เช่นนี้เองทำให้ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของประชาชนส่วนใหญ่เพิ่มสูงขึ้น

คุณ เจเนท ลี ผู้ถือสินเชื่อจากนครซิดนีย์เผยว่าเธอได้หาทางประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว 

"ฉันซื้อของจาก อัลดี (Aldi) และซื้อของลดราคาต่างๆ จาก วูลลี (Woolies) และ โคลส์ (Coles) แทน เราลดค่าใช้จ่ายจากการออกไปทานข้าวนอกบ้านลง"

General photo of Woolworth in Melbourne, Wednesday, February 24, 2021. Supermarket giant Woolworths has posted a near 16 per cent jump in profits in the first six months of its financial year, aided by soaring online sales during the COVID-19 pandemic.
อัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้นด้วย Source: AAP Image/Luis Ascui


คุณ ลี กล่าวว่า ตอนนี้เธอย้ายประเภทเงินกู้จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate) มาเป็นเงินกู้แบบอัตราดอกเบี้ยผันแปร (variable rate) ที่จ่ายน้อยกว่าแทนแต่เธอยอมรับว่าเธอไม่รู้เลยว่าประโยชน์ของการเปลี่ยนประเภทเงินกู้นี้จะคงอยู่ไปนานแค่ไหน 

"มันขึ้นอยู่กับว่าอาร์บีเอจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วแค่ไหน และแน่นอนว่ายิ่งปรับขึ้นเร็วมากเท่าไหร่ การเดิมพันของเราในครั้งนี้อาจจะไม่ได้ผลมากเท่าที่เราคาดไว้" 

ธนาคารกลางอ้างว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วเมื่อมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะช่วยชะลอการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อ ธนาคารกลางยังแจ้งต่อไปว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มสูงขึ้นมากเพียงไรนั้นขึ้นอยู่กับการประเมินภาพรวมของอัตราเงินเฟ้อและตลาดแรงงานควบคู่กัน

ด้าน นาย จิม ชอลเมอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของรัฐบาลสหพันธรัฐ ยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจนั้นเป็นเรื่องที่มีการผันผวนตลอดเวลาและการแก้ปัญหานี้นั้นคือการดึงดูดแรงงานจากต่างประเทศเข้ามา 

"ภาวะแรงงานและแรงงานทักษะขาดแคลนในระบบเศรษฐกิจของเรานั้นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งภาวะนี้ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเราเตรียมการที่จะพิจารณาทั้งระบบเพื่อหาหนทางแก้ปัญหานี้ ซึ่งการนำแรงงานต่างประเทศเข้ามาก็เป็นการแก้ปัญหาหนึ่งในนั้น"

ด้าน คุณ สตีฟ มิกเคนเบกเกอร์ หัวหน้านักวิเคราห์ของเว็บไซต์การเปรียบเทียบสถาบันการเงิน แคนสตาร์ (Canstar) ชี้ว่าประชาชนที่เผชิญความยากลำบากเนื่องมาจากการที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นควรปรึกษากับธนาคารผู้ถือสินเชื่อของตนเพื่อหาข้อตกลงทางการเงินที่ดีกว่าเดิม และอาจจะพิจารณาการย้ายโอนสินเชื่อไปสู่ธนาคารที่ให้ข้อตกลงที่คุณพอใจหากว่าธนาคารเดิมไม่สามารถให้ข้อตกลงทางการเงินที่ดีกว่าเดิมได้

"กรณีที่คุณมีสินเชื่อวงเงิน 50,000 ดอลลาร์ คุณสามารถประหยัดได้ถึง 400 ดอลลาร์ต่อเดือนโดยการย้ายอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐานที่คุณกำลังจ่ายให้กับธนาคารใหญ่ๆ ไปสู่การจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงในข้อตกลงแบบอื่นที่พวกเขามี"

House prices surge for all capital cities
ราคาบ้านเริ่มราคาตกลงเนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Source: SBS


ดูเหมือนว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ จะไม่ใช่การปรับขึ้นครั้งสุดท้ายในปีนี้ นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปีอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานจะปรับขึ้นถึงร้อยละ 2. 5 คุณ สตีฟ มิกเคนเบกเกอร์  อธิบายว่าภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้จะส่งผลแก่ผู้บริโภคอย่างไร 

"ถ้าคุณเปรียบเทียบอัตราการจ่ายดอกเบี้ยที่ร้อยละ 2.5 จนกระทั่งถึงเดือนเมษายน ก่อนที่ธนาคารกลางจะปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย มันจะหมายถึงว่าในวงเงินกู้ 500,000 ดอลลาร์คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มถึงเดือนละประมาณ 700 ดอลลาร์"

ข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index ((CPI)) ในครึ่งปีฐาน ที่จะมีการประกาศออกมาในวันที่ 27 กรกฎาคม ศกนี้ ซึ่งดัชนีนี้จะเป็นการบ่งชี้ว่าถ้ามีอัตราการขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้น ก็อาจคาดการณ์ได้ว่าอาจมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นอีกร้อยละ 0.5 ในเดือนถัดมา สิ่งที่ดูเหมือนจะทำให้ผู้บริโภคสบายใจขึ้นบ้างก็คืออัตราดอกเบี้ยที่อาจเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 2.5 นั้นน่าจะเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นสูงที่สุดแล้ว

นักวิเคราะห์การตลาดบางกลุ่มประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานจะปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 3.5 ในกลางปีหน้าแต่ คุณ เชน โอลิเวอร์  ประธานนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร เอ เอ็ม พี (AMP) เชื่อมั่นว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่มีสัญญาณว่าสถานการณ์ดอกเบี้ยจะเริ่มดีขึ้นหลังจากที่ปรับขึ้นถึง ร้อยละ 2.5 

"เราเห็นว่าตอนนี้ระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคนั้นมีระดับที่ต่ำมาก และเราก็เริ่มเห็นราคาซื้อขายบ้านตกลงบ้างแล้ว ซึ่งปกติแล้วถ้าคุณเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสามเดือนติดต่อกันและเข้าสู่วงจรที่ผู้คนจะประหยัดขึ้น สิ่งต่างๆก็จะดีขึ้น ดังนั้นปัจจัยเหล่านี้กำลังบ่งชี้ว่าธนาคารกลางกำลังทำงานทิศทางที่ต้องการที่จะรั้งความต้องการทางการตลาด และผลที่ได้คือธนาคารกลางจะสามารถที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ได้"


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share