เสียงนักเรียนไทยในออสฯ บอกเล่าสถานการณ์ค่าครองชีพแพง

Cost of living

Source: Pixabay / Pixabay/stevepb

นักเรียนไทยในออสเตรเลียเผยผลกระทบภาวะค่าครองชีพแพงกระทบต่อชีวิตพวกเขาอย่างไร พร้อมเล่าการใช้ชีวิตและการทำงานในออสเตรเลีย


ผลวิจัยล่าสุดชี้ว่านักเรียน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนท้องถิ่นหรือนักเรียนต่างชาติก็ล้วนได้รับผลกระทบจากภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นในออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร และค่าเดินทางที่ต่างขยับราคามากขึ้นกว่าเดิม

นักเรียนไทยในออสเตรเลียออกมาแสดงความคิดเห็นว่าพวกเขาได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในเรื่องหลักๆ คือ การจ่ายค่าที่อยู่อาศัย คุณ เชอรี่ นักเรียนไทยที่ถือวีซ่านักเรียนต่างชาติ เปิดเผยว่าค่าเช่าบ้านในแต่ละสัปดาห์เพิ่มสูงมากกว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน และไม่เพียงแต่ค่าเช่าบ้านแต่รวมถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างในชีวิตประจำวันด้วย เธอเปิดเผยว่า

“หลังช่วงโควิด หนูไม่รู้ว่ามัน เป็นเพราะว่าภาวะเงินเฟ้อหรืออะไร แต่ค่าเช่าเพิ่มขึ้นพรวดๆ ถ้าเปรียบเทียบตอนปี 2019 ก่อนโควิด ทุกอย่างมันแพงขึ้นมาก ไม่ใช่แค่เฉพาะค่าเช่า แต่ค่าอาหาร ค่าเดินทางก็ขึ้นหมด”
แม้แต่ค่าของเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังขึ้น เช่นเมื่อ 3 ปีก่อนซื้อไดร์เป่าผมอันละ 19 ดอลลาร์ ตอนนี้ขึ้นเป็น 25 ดอลลาร์ ค่าครองชีพมันแพงหมด ค่าอาหารก็เหมือนกัน เมื่อก่อนคุณอาจไปกินอะไรอร่อยๆ ได้ในราคา 15 ดอลลาร์ แต่ตอนนี้ เงินจำนวนเท่ากันแทบซื้ออาหารแบบเดิมไม่ได้ โดยเฉลี่ยต้องจ่ายประมาณ 20 ดอลลาร์ต่อจาน
ส่วนคุณกลองที่ถือวีซ่าานักเรียนต่างชาติ ก็เห็นด้วยว่า ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นกระทบกับการใช้ชีวิตของเขาเหมือนกัน โดยเฉพาะค่าเช่าและค่าอาหาร

“ ค่าเช่าตอนนี้ก็ประมาณ 350 ดอลลาร์ต่ออาทิตย์ในทำเลแถวใกล้ในเมือง ถ้าทำกับข้าวเองก็ตกมื้อละ 10 ดอลลาร์ หรือถ้าทานนอกบ้านก็ 15-20 ดอลลาร์ ต่อมื้อ”
supermarket
นักเรียนไทยในออสเตรเลียเผยว่าไม่เพียงแต่ค่าที่อยู่อาศัยที่ต้องจ่ายเพิ่มมากขึ้น แต่ของของใช้ประจำวันก็มีราคาเพิ่มขึ้นด้วย Credit: wikimedia commons
นักเรียนไทยต้องหางานพิเศษทำเพื่อพยุงและช่วยเหลือเรื่องรายจ่ายของตนเองแต่การที่รัฐบาลเปลี่ยนกฎชั่วโมงการทำงานของนักเรียนต่างชาติอาจส่งผลกระทบกับนักเรียนบางกลุ่มได้

คุณเชอรี่ ให้ความเห็นว่า ตอนช่วงโควิดรัฐบาลไม่มีกฎในเรื่องชั่วโมงทำงานของนักเรียนต่างชาติ แต่พอหลังโควิดรัฐบาลจะนำระเบียบจำกัดชั่วโมงทำงานของนักเรียนต่างชาติมาใช้อีกครั้ง ซึ่งมันอาจจะกระทบกับคนบางกลุ่ม

“ อยากแนะนำให้ใครก็ตามที่มาที่นี่ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เพราะค่าแรงที่นี่ค่อนข้างดี แต่ถ้ารัฐบาลนำกฏทำงาน 48 ชั่วโมงต่อ2 อาทิตย์มาใช้ก็อาจจะกระทบกับกลุ่มที่มาทำงานโดยตรง แต่สำหรับหนูต้องเรียนมากกว่าอยู่แล้วและไปทำงานไม่ถึง 48 ชั่วโมงก็ไม่น่าจะกระทบอะไร”

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share