นักท่องเที่ยวถูกปรับและยกเลิกวีซ่าเพราะไม่แจ้งว่ามีเนื้อและชีส

ชายชาวสเปนผู้หนึ่งกลายเป็นผู้เดินทางคนแรกที่ถูกปรับภายใต้กฎหมายใหม่ด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ หลังจากที่เขาไม่สำแดงเนื้อสัตว์กว่า 1 กิโลกรัมและชีสในกระเป๋าเดินทางของเขา

Sealed meat and cheese on a metal table.

ชายชาวสเปนผู้หนึ่งถูกยกเลิกวีซ่าและถูกปรับ จากการนำชีสและเนื้อสัตว์ติดตัวเข้ามา โดยไม่ได้สำแดง Source: AAP / Supplied

ประเด็นสำคัญในข่าว
  • ชายชาวสเปนวัย 20 ปีผู้นี้ถูกยกเลิกวีซ่าและถูกปรับ 3,300 ดอลลาร์ จากการนำชีสและเนื้อสัตว์ติดตัวเข้ามา โดยไม่ได้สำแดง
  • เขาถูกตรวจพบที่สนามบินเพิร์ทเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  • เขาเป็นคนแรกที่ถูกปรับภายใต้กฎหมายความปลอดภัยทางชีวภาพที่เข้มงวดขึ้น
ผู้เดินทางชาวสเปนกลายเป็นบุคคลแรกที่ถูกปรับภายใต้กฎหมายความปลอดภัยทางชีวภาพที่เข้มข้นขึ้น หลังจากที่เขาไม่สำแดงเนื้อสัตว์และชีสในกระเป๋าเดินทางของเขา

ชายวัย 20 ปีผู้นี้ถูกยกเลิกวีซ่าและถูกปรับ 3,300 ดอลลาร์ ฐานนำเข้าเนื้อหมูดิบกว่า 1 กิโลกรัม และชีสติดตัวเข้ามาในออสเตรเลีย โดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจในสนามบิน

ชายคนนี้ถูกตรวจที่สนามบินเพิร์ทเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พบว่าเขาไม่ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ณ ด่านตรวจ เกี่ยวกับเนื้อหมูแปรรูปแพนเชตตา 275 กรัม เนื้อหมูที่ไม่ใช่เพื่อการค้า 665 กรัม และชีสนมแพะประมาณ 300 กรัม ที่เขานำติดตัวเข้ามาในกระเป๋าเดินทางของเขา

รัฐบาลออสเตรเลียภายใต้การนำของนายอัลบานีซีได้ประกาศในเดือนตุลาคม ว่าจะเพิ่มค่าปรับการทำผิดกฎหมายสำหรับผู้ที่ถูกตรวจพบว่านำสิ่งต้องห้ามติดตัวเข้ามาด้วย ทั้งนี้เพื่อหยุดยั้งโรคและแมลงศัตรูพืชไม่ให้เข้ามาในออสเตรเลีย

ก่อนการปรับกฎหมายให้เข้มงวดขึ้น ชายผู้นี้น่าจะถูกยกเลิกวีซ่าและถูกปรับ 2,664 ดอลลาร์
People walking through a terminal at Perth Airport.
The man was stopped at Perth airport last Tuesday. Source: AAP / Richard Wainwright
ผู้เดินทางที่ถูกยกเลิกวีซ่าจะถูกนำตัวออกจากออสเตรเลียโดยเที่ยวบินแรกที่มีให้บริการ และอาจเผชิญกับการถูกห้ามเข้าออสเตรเลียเป็นเวลา 3 ปีก่อนที่จะสามารถสมัครขอวีซ่าได้อีกครั้ง

นายเมอร์เรย์ วัตต์ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของออสเตรเลีย กล่าวกับสำนักข่าวเอเอพี (AAP) ว่ากฎหมายใหม่นี้ จะไม่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่อยากเดินทางมาออสเตรเลีย

“ผมคิดว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ทำสิ่งที่ถูกต้อง และพวกเขาสำแดงสิ่งที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางชีวภาพเมื่อเดินทางถึง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ทำ” นายวัตต์ กล่าว

“ถ้าเขาสำแดงผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ก็คงจะมีการดำเนินการอย่างอื่น แต่ปัญหาก็คือเขาไม่ได้สำแดงสิ่งเหล่านั้น”
“เราจริงจังกับการยับยั้งโรคปากและเท้าเปื่อยและโรคอื่นๆ ไม่ให้เข้ามาในประเทศ และผู้เดินทางต้องจำไว้สิ่งนี้ไว้เมื่อพวกเขาพยายามเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย”

วุฒิสมาชิกวัตต์เรียกร้องให้ผู้เดินทางระหว่างประเทศคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการสำแดงสิ่งต่างๆ ที่นำติดตัวเข้ามา และให้แจ้งทุกอย่างที่ไม่แน่ใจ

ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรของออสเตรเลียยังได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับวันตรุษจีน ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ (22 ม.ค.)

ดร. คริส ล็อกคี จากกระทรวงกล่าวว่า ของขวัญตรุษจีนที่มักเป็นอาหารอาจถูกยับยั้งไม่ให้นำเข้ามาที่ด่านตรวจที่สนามบิน
“โชคร้ายที่มีของขวัญแบบดั้งเดิมสำหรับเทศกาลตรุษจีนที่อาจนำแมลงศัตรูพืชและโรคมาสู่ออสเตรเลีย” ดร. คริส ล็อกคี กล่าว

"ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เรามักจะเห็นสิ่งต่างๆ ที่มีเนื้อหมู ผลไม้ พืช สมุนไพร และไข่เป็นส่วนผสม สิ่งเหล่านี้อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะนำแมลงศัตรูพืชและโรคต่างๆ เข้ามาได้"

มีการประมาณการว่าการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในออสเตรเลียจะทำให้เศรษฐกิจเสียหายกว่า 80,000 ล้านดอลลาร์ตลอดช่วง 10 ปี

ผู้ที่ไม่สำแดงสิ่งที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางชีวภาพที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะเผชิญกับค่าปรับสูงสุด 5,500 ดอลลาร์ และถูกยกเลิกวีซ่า


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 17 January 2023 2:46pm
By SBS News
Presented by Parisuth Sodsai
Source: AAP


Share this with family and friends