เสียงผู้ปกครองและเด็กๆ คนไทยที่ไปฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว

Thai children aged 5-11 years old who had their Covid-19 vaccine

น้องอเลย์นา มอรร์ริส น้องฟ้า อินทิรา และน้องริชชิวิน กลิ่นสุคนธ์ Source: supplied/Element5 Digital via Unsplash

หลังออสเตรเลียประกาศเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่เด็กๆ อายุ 5-11 ปี เอสบีเอสไทยสัมภาษณ์ผู้ปกครองคนไทยที่พาลูกๆ ไปฉีดวัคซีน และฟังเสียงของเด็กๆ หลังได้รับวัคซีนแล้ว


กดฟังสัมภาษณ์
LISTEN TO
thai parents who brought their children to get covid-19 vaccine image

เสียงผู้ปกครองและเด็กๆ คนไทยที่ไปฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว

SBS Thai

17/01/202213:12
บทสัมภาษณ์ผู้ปกครองคนไทยที่พาลูกๆ ไปฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 มาแล้ว
Thayaporn Morris and Alaynah Morris
คุณธญภรณ์ มอร์ริส และน้องอเลย์นา มอร์ริส (น้องพราว) Source: Thayaporn Morris
คุณ ธญภรณ์ มอร์ริส และลูกสาวอเลย์นา มอร์ริส หรือน้องพราว ที่จองฉีดวัคซีนตั้งแต่ก่อนคริสต์มาส ปี 2021 โดยจองผ่านแพทย์รักษาทั่วไป (GP) และแพทย์แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันไปฉีด ซึ่งคุณธญภรณ์กล่าวว่าขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และให้นำบัตรเมดิแคร์ไปด้วย

“ในเบื้องต้นลูกเข้าใจในสถานการณ์โควิดนะคะ จากประสบการณ์ 2 ปีที่ผ่านมา เขาก็เห็นความรุนแรงของคนที่ติดเชื้อ ก็เลยเข้าใจว่าวัคซีนเป็นตัวช่วย เหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่”

หลังฉีดวัคซีนน้องพราวมีอาการปวดที่แขน รู้สึกเพลียเล็กน้อย และอาการเหล่านี้หายไปในวันรุ่งขึ้น

คุณธญภรณ์กล่าวว่า ก่อนพาน้องพราวไปฉีดมีความกังวลเล็กน้อย เนื่องจากเป็นวัคซีนรุ่นแรก
แต่วัคซีนก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่มีตอนนี้ หากเราจะรอดูระยะยาว ก็คิดว่าอาจจะสายเกินไป โดยส่วนตัวพ่อแม่ฉีดแล้ว ก็ไม่เห็นมีผลข้างเคียงกับร่างกายมากนัก และเป็นการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันด้วยค่ะ
ด้านน้องพราวกล่าวว่า เธอไม่กลัวตอนไปฉีดวัคซีนและทราบว่าเป็นการฉีดเพื่อป้องกันจากไวรัสโคโรนา และหลังฉีดมีแค่อาการเจ็บแขน
Nattawee and Intira
คุณณัฏฐวีและน้องอินทิรา (ฟ้า) Source: Nattawee
คุณณัฏฐวี จองฉีดวัคซีนให้ลูกสาวของเธอ น้องอินทิราหรือน้องฟ้า เล่าว่าขั้นตอนจองฉีดตอนแรกยุ่งยากเล็กน้อย เนื่องจากตอนที่รัฐบาลประกาศให้เริ่มจองฉีดวัคซีนได้ แต่ในเว็บไซต์ยังไม่สามารถจองได้ จึงจองผ่านคลินิก แต่พอได้ข่าวว่าคลินิกอาจมีวัคซีนไม่พอ จึงเข้าไปเช็คในเว็บของรัฐบาลอีกครั้ง ครั้งนี้สามารถจองผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาลได้จึงทำการนัดหมาย และวันที่พาลูกไปฉีดขั้นตอนไม่ยุ่งยากเช่นตอนจอง

คุณณัฏฐวีกล่าวว่า เธอหาข้อมูลจากข่าวก่อนพาน้องฟ้าไปฉีด และน้องฟ้าเข้าใจเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 อยู่ก่อนแล้ว โดยพ่อกับแม่ก็ฉีดวัคซีนเช่นกัน

“จริงๆ ที่โรงเรียน ในห้องของลูกก็มีเด็กติดโควิดเมื่อปีที่แล้ว ลูกก็เข้าใจว่ามันมีการระบาด ก็จำเป็นต้องฉีด”

หลังจากฉีดวัคซีน น้องฟ้ามีอาการเจ็บที่แขนประมาณ 2 วัน

เบื้องต้นคุณณัฏฐวีกังวลเล็กน้อยก่อนพาลูกไปฉีดวัคซีน แต่ตามข่าวเรื่องการฉีดวัคซีนสำหรับเด็ก
ได้ทราบจากข่าวว่า ที่อเมริกามีการฉีดไปแล้วตั้ง 8-9 ล้านโดส ผู้เชี่ยวชาญก็สรุปว่ามันปลอดภัย ก็เลยคิดว่าลูกเราก็น่าจะฉีดได้ ทุกคนก็น่าจะฉีดได้
คุณณัฏฐวีกล่าวว่ามีเพื่อนและคนรู้จักที่ประเทศไทยและประเทศอื่นที่กังวลเรื่องการพาลูกๆ ไปฉีดวัคซีน

ด้านน้องฟ้ากล่าวว่า รู้สึกกลัวตอนไปฉีดวัควีน แต่ทำอะไรไม่ได้ และทราบว่าการไปฉีดวัคซีนมีผลดีอย่างไร

“จะได้ไม่ป่วยหนักถ้าติดโควิด”
Loekruedi Klinsukhon and Richawin Klinsukhon
คุณฤกษ์ฤดี กลิ่นสุคนธ์ และน้องริชชวิน กลิ่นสุคนธ์ (ริชชี) Source: Loekruedi Klinsukhon
คุณฤกษ์ฤดี กลิ่นสุคนธ์ (ผึ้ง) ซึ่งโทรไปเช็กที่คลินิกเพื่อจองฉีดให้ลูกชาย น้องริชชวิน กลิ่นสุคนธ์ (ริชชี)เมื่อคลินิกบอกให้มาฉีดในเย็นวันนั้น คุณผึ้งก็พาน้องริชชีไปฉีดเลย โดยขั้นตอนการฉีดไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที

คุณผึ้งเล่าว่า เนื่องจากพ่อกับแม่ของน้องริชชีไปฉีดพร้อมกันก่อนหน้า ในตอนนั้นน้องริชชีอยากฉีดแต่ยังฉีดไม่ได้และร้องไห้ ในวันที่พาน้องริชชีไปฉีดวัคซีนค่อนข้างกะทันหัน จึงบอกลูกเมื่อไปถึงคลินิกแล้ว

“เขาค่อนข้างโอเคนะคะ ด้วยความที่เขาค่อนข้างจะเข้าใจเรื่องโควิดประมาณนึง ที่โรงเรียนเขาก็บอกด้วย เขาเข้าใจมากกว่าที่เราคิดค่ะ”

คุณผึ้งกล่าวต่อว่า จริงๆ แล้วน้องริชชีไม่ค่อยชอบฉีดยา แต่น้องมีคำถามที่เกี่ยวกับเรื่องโควิดมาเรื่อยๆ เช่น “มามี๊ ทำไมเราไม่กลับไปเมืองไทย?” ซึ่งคุณผึ้งก็ตอบว่า “เรายังไปไม่ได้ลูก

หลังฉีดวัคซีน น้องริชชีไม่มีอาการข้างเคียง

เมื่อถามคุณผึ้งในความกังวลในการฉีดวัคซีนสำหรับเด็ก เนื่องจากเป็นวัคซีนตัวใหม่และใช้เวลาในการผลิตเร็ว คุณผึ้งตอบว่าช่วงแรกมีความกังวล และพยายามหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด แต่เนื่องจากน้องริชชีมีโรคประจำตัวคือโรคจีซิกพีดีหรือโรคพร่องเอนไซม์จีซิกพีดี (G6PD Deficiency) ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกตัวง่ายกว่าคนปกติ

เมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณผึ้งพาลูกกลับไทยและลูกป่วยจากไข้หวัดใหญ่ (Influenza Type A) ซึ่งน้องริชชีมีอาการหนักมาก ขณะที่คุณผึ้งก็กำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สองอยู่ด้วย
คืออาการมันหนักอ่ะ หนักกว่าไข้ปกติ พอเรานึกถึงประสบการณ์นั้น มันก็เลยแบบว่า เราจะกลัวอันไหนดีวะ กลัวตอนที่เป็นไข้แล้วอาการหนัก หรือว่าจะกลัววัคซีนดี
โดยคุณผึ้งได้ปรึกษาแพทย์จีพีประจำ และสุดท้ายคุณผึ้งเลือกที่พาลูกไปฉีดวัคซีน

คุณผึ้งกล่าวต่อว่า เพื่อนๆ ผู้ปกครองท่านอื่นที่รู้จักมีความกังวลเรื่องวัคซีนสำหรับเด็ก แต่คุณผึ้งเป็นคนที่ตัดสินใจเร็วที่สุดที่พาลูกไปฉีด

“ผึ้งคิดทบทวนหลายรอบแล้ว และคุยกับแม่คนออสซี ซึ่งเขาบอกว่า ยูไม่ใช่คนแรกหรอก กว่ามันจะมาถึงเรา คือเขาไปทดลองมาจนเขามั่นใจระดับที่มากกว่าที่อื่นแล้ว ยังไงเราไม่ใช่คนแรกแน่นอน”

ด้านน้องริชชีเล่าให้ฟังว่า ตอนไปฉีดวัคซีนไม่กลัวและไม่เจ็บ โดยน้องทราบว่าไปฉีดวัคซีนเพราะมีโควิด


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share